สรุปรายการบริจาคเงิน ลดหย่อนภาษี 2562 ลดภาระภาษีแบบคุ้ม ๆ ถึง 2 เท่า รีบมาเช็กเงื่อนไข ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ช่วงต้นปี 2563
มนุษย์เงินเดือนและผู้มีรายได้ที่กำลังวางแผนจัดการภาษีกันอยู่ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เงินบริจาค หรือ เงินทำบุญ สามารถเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน แถมบางรายการลดหย่อนได้ถึง 2 เท่าอีกด้วย หมายความว่า บริจาคไป 1,000 บาท นำมาลดหย่อนได้ถึง 2,000 บาทเลยทีเดียว ว่าแต่จะมีรายการบริจาคอะไรบ้างนั้น ที่ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เรารวบรวมมาให้แล้ว
1. บริจาคเพื่อการศึกษา
การบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ โดยเป็นการบริจาคเพื่อการใช้จ่ายสำหรับ 3 รายการนี้
– อาคารสถานที่ เป็นการจัดหาหรือจัดสร้างอาคาร หรือที่ดินให้แก่สถานศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษา
– สื่อการเรียน การสอน เป็นการจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา แบบเรียน ตำรา หนังสือทางวิชาการ สื่อ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
– บุคลากร เป็นการจัดหาครู อาจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา ให้กับสถานศึกษา
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ผู้ที่บริจาคสนับสนุนการศึกษา เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2 เท่า จะต้องบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) เท่านั้น จึงจะสามารถหักลดหย่อนได้ โดยเราไม่ต้องเก็บใบเสร็จการบริจาคมาเป็นหลักฐานเพื่อยื่นภาษีอีกต่อไป เพราะข้อมูลการบริจาคของเราจะส่งตรงถึงกรมสรรพากรเลย
2. บริจาคให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ
ภาพจาก PongMoji/Shutterstock
นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เราสามารถบริจาคเงินให้โรงพยาบาลของรัฐโดยตรงได้แล้ว เพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษี 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องบริจาคผ่านทางมูลนิธิต่าง ๆ ของโรงพยาบาล
3. สนับสนุนการกีฬา
ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ หากเป็นการบริจาคเงินให้หน่วยงานด้านกีฬาที่สังกัดสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย
• ตรวจสอบรายชื่อหน่วยงานด้านกีฬาที่หักลดหย่อนได้ 2 เท่า
4. บริจาคเข้ากองทุนวิจัยและนวัตกรรม 4 กองทุน
ได้แก่ กองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ฯ, กองทุนสนับสนุนการวิจัย, กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา และกองทุนเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข ในการส่งเสริมด้านการทำวิจัย และพัฒนานวัตกรรม โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับการบริจาคด้านการศึกษาต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ
ทั้งนี้ จะมีผลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ส่วนถ้าบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป จะหักลดหย่อนได้ 1 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่น ๆ แล้ว ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่น ๆ
5. กองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น
สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ ซึ่งต้องเป็นการบริจาคให้กองทุนที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนและจูงใจให้มีการบริจาคเงินให้แก่กองทุน พัฒนาครูให้มีคุณภาพและมาตรฐานเหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง
6. ช่วยเหลือผู้พิการ
ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ ด้วยการบริจาคเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้คนพิการได้เข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นสาธารณะ รวมถึงสวัสดิการของภาครัฐ ผ่านสถานสงเคราะห์คนพิการต่าง ๆ
• ตรวจสอบรายชื่อสถานสงเคราะห์คนพิการที่หักลดหย่อนได้ 2 เท่า
7. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อพัฒนาเด็กเล็ก
สำหรับการบริจาคเงินให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวมทั้งการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก็สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ
8. โครงการฝึกอบรมเยาวชนของสถานพินิจ
เงินบริจาคในโครงการฝึกอบรมอาชีพและการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู เด็กและเยาวชนของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน หรือศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ของกระทรวงยุติธรรม สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ
9. กองทุนยุติธรรม
นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ สำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน มีโอกาสเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม และเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี การขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย การถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน และการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน
10. การจัดหาหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการอ่าน
สามารถหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าเช่นกัน แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่น ๆ โดยต้องเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการอ่านให้แก่ สถานศึกษาของรัฐ โรงเรียนเอกชน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน หอสมุด ห้องสมุด หรือแหล่งหนังสืออื่น ๆ ที่ให้บริการแก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน รวมถึงห้องสมุดของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเองด้วย
ใช้หลักฐานอะไรในการขอลดหย่อนภาษี
– กรณีเป็นการบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาที่ใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษี 2 เท่า ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ต้องเป็นการบริจาคผ่านระบบ e-Donation เท่านั้น ซึ่งข้อมูลการบริจาคจะถูกบันทึกและส่งให้กรมสรรพากรโดยตรง โดยที่เราไม่ต้องเก็บหลักฐาน เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบอนุโมทนาบัตร ไว้ยื่นภาษี
– กรณีเป็นการบริจาคเงินอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เพื่อสนับสนุนการศึกษา ยังสามารถใช้ใบเสร็จรับเงินบริจาค ใบอนุโมทนาบัตร ที่ระบุชื่อผู้บริจาคชัดเจนตรงกับชื่อ-นามสกุลของผู้เสียภาษี เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษีได้ หรือสามารถบริจาคผ่านระบบ e-Donation ก็ได้เช่นกัน
บริจาคผ่าน e-Donation ได้อย่างไร
ก่อนอื่นต้องตรวจสอบว่าหน่วยงานที่เราจะบริจาค ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษา ศาสนสถาน โรงพยาบาล องค์การ สถานสาธารณกุศลต่าง ๆ มีระบบ e-Donation หรือไม่
ข้อดีของระบบนี้ก็คือ เมื่อเราบริจาคเงินก็สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เลย โดยไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาคมายื่นภาษี จึงไม่ต้องกังวลว่าเอกสารต่าง ๆ จะสูญหาย และยังช่วยให้เราได้รับเงินคืนภาษีได้เร็วขึ้นด้วย โดยสามารถบริจาคผ่าน e-Donation และแจ้งความประสงค์จะใช้ลดหย่อนภาษีได้ 2 ช่องทางคือ
– กรณีบริจาคด้วยเงินสดที่หน่วยรับบริจาค ให้แจ้งหน่วยรับบริจาคบันทึกข้อมูลการบริจาคบนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทันที
– กรณีบริจาคผ่านธนาคารพาณิชย์โดยการโอนเงินด้วย QR Code ให้สังเกตแผ่นป้าย QR Code ต้องมีคำว่า “e-Donation” และชื่อบัญชีเงินฝาก “หน่วยรับบริจาค” เมื่อสแกน QR Code แล้ว จะมีข้อความแจ้งความประสงค์ให้ธนาคารส่งข้อมูลการบริจาคของเราให้กรมสรรพากร เพื่อขอหักลดหย่อนภาษี
ตัวอย่าง QR Code ที่สามารถบริจาคผ่าน e-Donation เพื่อลดหย่อนภาษีได้
วิธีคำนวณเงินบริจาคเพื่อใช้ลดหย่อนภาษี
วิธีคำนวณเงินบริจาค ที่ใช้ลดหย่อนภาษี 2562 ได้นั้น สามารถคำนวณง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ตัวอย่างเช่น : นาย A มีเงินได้สุทธิทั้งปี 600,000 บาท ได้บริจาคเงินเพื่อการศึกษา 10,000 บาท และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอื่น ๆ ดังนี้
– หักค่าใช้จ่าย 50% ของเงินได้ (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท) = 100,000 บาท
– หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
– หักค่าประกันสังคม 9,000 บาท
– หักค่าลดหย่อนบุตร 1 คน 30,000 บาท
– หักค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต 40,000 บาท
ดังนั้น เมื่อหักค่าลดหย่อนข้างต้นแล้ว นาย A จะเหลือเงินได้สุทธิเท่ากับ 361,000 บาท
จากนั้นให้นำรายได้สุทธิหลังหักค่าลดหย่อนอื่น ๆ ของนาย A จำนวน 361,000 บาท ไปคำนวณลดหย่อนภาษีเงินบริจาค นั่นคือ นาย A จะหักลดหย่อนภาษีเงินบริจาค ได้ไม่เกิน 10% ของ 361,000 บาท หรือไม่เกิน 36,100 บาท
ดังนั้น การที่นาย A บริจาคเงินเพื่อการศึกษาไป 10,000 บาท ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ จะทำให้นาย A สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ถึง 20,000 บาท หรือหากนาย A อยากลดหย่อนภาษีแบบคุ้มค่าที่สุด ก็สามารถเพิ่มเงินบริจาคเป็น 18,050 บาทได้ ก็จะช่วยให้ลดภาระภาษีสูงสุดที่ 36,100 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายการบริจาคเงินลดหย่อนภาษี 2 เท่า ที่เรารวบรวมมาให้แบบครบถ้วน ใครที่ไม่ได้บริจาคผ่านระบบ e-Donation ก็อย่าลืมเก็บหลักฐานใบเสร็จไว้ยื่นต่อกรมสรรพากรด้วยนะ
***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
credit : https://money.kapook.com/view201874.html